ไปผ่าตัดไส้ติ่งมาค่ะ

วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ของการเป็นไส้ติ่งอักเสบระยะแรกเริ่มให้หลายๆท่านได้ทราบกันค่ะ
เนื่องจากนิหน่าเองก็ไม่คิดว่า วันนึงจะได้เจอกับตัวเอง เพราะเคยอ่านเรื่องไส้ติ่งอักเสบมาหลายครั้ง
พอจะรู้อาการอยู่บ้างว่าจะเป็นยังไง แต่ก็ยังคิดว่ามันยังเป็นเรื่องไกลตัวอยู่ดี หลายๆคนคงสงสัย
เหมือนนิหน่าว่า คนเรามีไส้ติ่งไว้ทำไม เจ้าไส้ติ่งนี่ ตอนเราเด็กๆมันก็พอมีประโยชน์อยู่บ้างนะคะ
แต่พอเราโตขึ้น ไส้ติ่ง มันก็คือมีเป็นติ่งไว้เฉยๆ รอวันอักเสบ ซึ่งบางคนอาจจะไม่เป็น มันก็อยู่ของ
มันอย่างนั้น แต่ถ้าคนไหนแจ๊กพอต ไส้ติ่งอักเสบขึ้นมา ก็ต้องตัดออกอย่างเดียว ไม่มีการกินยา
ไปรักษาให้มันหายอักเสบ แถมถ้าอักเสบแล้วต้องรีบตัดออกก่อนมันจะแตก คราวนี้ละเรื่องยาวเลย

มาแชร์ประสบการณ์ของนิหน่ากันดีกว่าค่ะ นิหน่าจริงๆไม่มีอาการอะไรเลยนอกจากรู้สึกไม่ค่อยสบาย
มาสองสามวัน ก็คิดว่าไม่เป็นไร พอมาคืนพฤหัสก็ตื่นมากลางดึก สาเหตุเพราะน้องแพทมานอนทับ
ตรงช่วงท้องด้านล่างขวา แล้วพอเค้าพลิกตัวออกไป เรารู้สึกว่ามันเจ็บ เจ็บจนสะดุ้งตื่นเลย ก็เริ่มรู้สึก
แปลกๆละ บวกกับรู้สึกว่าตัวร้อนๆ เลยลองวัดไข้ พบว่ามีไข้ต่ำๆ ประมาณ 37.9 ลองกดดูที่ท้อง
บริเวณอื่นๆก็ไม่เจ็บ แต่พอกดท้องด้านล่างขวา รู้สึกเจ็บ ความเจ็บมันเหมือนเวลาเราไปซิทอัพ
แล้วมันล้าๆกล้ามเนื้ออะค่ะ แต่ว่ามันไม่ได้เจ็บทั่วทั้งท้อง มันแค่จุดด้านล่างขวาเท่านั้น ในใจคิดเลย
ว่าสงสัยงานเข้าแน่ๆ น่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบแน่ๆเลย

ก็รอจนเช้า ดูอาการตัวเองอีกที ความเจ็บยังคงอยู่ แต่ไม่มากเท่าไหร่ แต่ถ้ากดลงไปจะเจ็บใช้ได้เลย
ก็เลยบอกแบงค์ว่า สงสัยตัวเองจะเป็นไส้ติ่งอักเสบจริงๆละ แบงค์ก็ตกใจให้รีบไปหาหมอ แต่นิหน่า
คิดว่ายังไหว เลยไปทำงานที่ช่อง 7 ก่อน แล้วไปโรงพยาบาลตอนบ่าย ไปด้วยความมั่นใจเลยว่า
น่าจะเป็นไส้ติ่ง 90% เพราะได้ส่งLine คุยอาการเบื้องต้นกับพี่หมออั๋น และพี่หมอโต้ ที่สมิติเวชแล้ว
นิหน่าแพคกระเป๋าไปเรียบร้อยเลย เผื่อแอดมิท ได้ไม่ต้องลำบากแบงค์มาเก็บกระเป๋าให้ พร้อมมากๆ

ไปถึง เจอคุณหมอ จับวัดไข้ ก็ไม่มีไข้ จับเจาะเลือด และก็ทำ CT Scan ปรากฏว่าไส้ติ่งมันเริ่มบวมๆ
บ่งบอกว่ามันกำลังจะอักเสบ คุณหมอก็แนะนำว่าให้เอามันออกไปซะ นิหน่าเองก็ตัดสินใจผ่าออก
เพราะปลายเดือนต้องเดินทางด้วย เลยผ่าแบบส่องกล้อง ซึ่งคุณหมอบอกว่าจะร่างกายจะฟื้นได้เร็ว
ก่อนตัดสินใจผ่า ยังบอกคุณหมอว่า วันอาทิตย์เช้าหนูมีงานนะคะ 5555 คุณหมอแอบงงนิดนึงแต่ก็
บอกว่า …. น่าจะไปได้ครับ (แฮ่ๆๆๆ)

เชื่อมั้ยคะว่าก่อนผ่า นิหน่าเดินไปไหนมาไหนเอง ไม่ต้องนั่งรถเข็นอะไรใดๆ เซ็นยินยอมผ่าตัด เลือก
แพกเกจห้องพักเองเรียบร้อย โทรแจ้งสามีว่าจะผ่าห้าโมงนะ แบงค์รีบกลับไปรับแพทพามาหานิหน่า
ที่โรงพยาบาล โชคดีที่ทันส่งเข้าห้องผ่าตัดพอดี การผ่าตัดก็ใช้วิธีวางยาสลบ และก็ส่องกล้องผ่าตัด
คุณหมอจะเจาะรูเล็กๆ 3 จุด ที่สะดือ และที่ท้องน้อยสองจุด เข้าไปผ่าตัดไส้ติ่งเราออกมา นิหน่างดน้ำ
งดอาหารไปล่วงหน้าแล้ว เพราะคิดว่าเผื่อต้องผ่า หลังจากผ่าเสร็จก็ฟื้นมาในห้องพักฟื้น ก่อนกลับมา
ที่ห้องพัก เชื่อไหมคะว่า ความรู้สึกเจ็บน้อยมากๆ แต่สะลืมสะลือยาสลบ และก็ไม่ค่อยมีเสียง เพราะเค้า
ต้องสอดท่อช่วยหายใจเข้าไป แค่นั้นเอง

(ขอบคุณรูปจาก Twitter @Dr_carebear ค่ะ)

หลังผ่าตัดวันนึง วันศุกร์ ก็เริ่มเดินได้ เดินลงไปซื้อหนังสืออ่านเลย เพราะอยู่แต่ในห้องก็เบื่อ พอวันเสาร์
ก็กลับบ้านได้ แต่คุณหมอไม่ให้เดินขึ้นลงบันไดเยอะ และไม่ให้ยกของหนัก ก็อดอุ้มลูกไปก่อน อาการ
เจ็บแผลมีแค่แปล๊บๆบ้าง วันอาทิตย์นี่นิหน่าออกไปทำงานเลย แต่ก็แป๊ปเดียวนะคะ คือถือว่าใช้ชีวิต
ปกติได้เร็วมาก

จากประสบการณ์คราวนี้ อยากให้หลายๆท่านเวลาไม่สบาย หรือรู้สึกผิดปกติ อย่าปล่อยไว้ ให้ลอง
หาข้อมูลดู อย่างไส้ติ่งนี่ จะปวดได้หลายแบบ บางคนอาจจะมีถ่ายท้อง มีอาเจียนได้ และสุดท้าย
มักจะไปปวดท้องด้านล่างขวา ให้รีบไปหาหมอก่อนเลยนะคะ ถ้ามันแตกจะอันตรายมากๆเลย
ส่วนเรื่องการผ่าตัดส่องกล้อง ถือว่าดีมากๆสำหรับนิหน่า แผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็ว แต่ก็อาจจะ
ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ ว่าร่างกายแต่ละคน จะต้องทำการรักษาแบบไหน ข้อเสียของการส่องกล้อง
ก็คือ แพงค่ะ T_T ดีที่นิหน่าทำประกันไว้ ก็ช่วยได้มากๆเลย

หลายคนถามว่าทำไมตอนผ่าคลอดไม่เอาไส้ติ่งออกไปด้วยเลย อันนี้คุณหมอที่ผ่าคลอดให้นิหน่าไม่แนะนำ
เพราะท่านบอกว่าผ่าคลอดเป็นผ่าแบบสะอาด คืออันนี้คงแล้วแต่คุณหมอแต่ละท่านค่ะ แต่จริงๆถ้าเอาออก
ได้ เอาออกไปเลยก็ดีนะคะ ตัดปัญหาไปเลย

สุดท้ายนิหน่าอยากขอบคุณ คุณหมออั๋น คุณหมอโต้ และคุณหมอภัคพงศ์ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
ที่คอยดูแล รักษานิหน่าอย่างดี โดยเฉพาะคุณภัคพงศ์ที่ผ่าตัดให้ คุณหมอเก่งมากๆ ขอบคุณอีกหลายๆ
ท่านที่ส่งคำอวยพรมาให้ อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองกันด้วยนะคะ ^^

xxx

นิหน่า