ครอบครัวแสนตรองของเรา

ช่วงนี้มีหลายๆคนถามนิหน่าว่า ไปทำอะไรมาทำไมผอม สารภาพตรงๆเลยค่ะว่าไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษเลย แถมยังไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองเป็นพิเศษอะไร เพราะทั้งดูแลลูกแล้วก็ทำงาน พอเหนื่อยมากๆก็ไม่ค่อยอยากทานอะไรมาก เลยผอม 555 แต่ยังโชคดีที่นิหน่าไม่โทรม คงเพราะเลือกทานอาหารคลีน ทำให้ไม่ขาดสารอาหาร และไม่อ้วน แล้วก็ได้ทานวิตามินเสริมตามคำแนะนำของคุณหมอที่เคยไปปรึกษา บวกกับล่าสุดที่นิหน่าได้รับเกียรติให้ไปร่วมงานของBlackmores มาคราวก่อน ที่เคยเล่าให้ฟังใน Blog มาก่อนหน้านี้ ก็เลยได้ทานควบคู่กันไปด้วย วันนี้จะลองมาเล่าชีวิตประจำวันของบ้านนิหน่าให้ฟังกันค่ะ

ชีวิตประจำวันของนิหน่า ตื่นมา นิหน่าก็จะทานอาหารเช้าง่ายๆ ทานอาหารคลีนๆซะส่วนใหญ่ หรือบางที ทำอาหารให้ลูกแล้วแม่กับพ่อก็สามารถทานด้วยได้ ก็ทานไปพร้อมกันเลย ข้อดีของการทานอาหารของลูกก็คือ เราจะปรุงน้อย เบามือมาก ดังนั้นเราก็จะได้ทานอาหารกึ่งๆคลีนไปในตัว เมนูโปรดของพี่แพทก็พวก ไข่กวน ข้าวผัดปลาแซลมอน ซุป วนๆกันไป โชคดีที่นิหน่ากับแบงค์เป็นพวกทานง่าย ก็สบายๆ ทานกับลูกนั่นแหละ ส่วนน้องริต้า จะทำอาหารแยกไปอีกแบบเลยเพราะเค้าเพิ่งขวบเดียว ก็จะไม่ปรุง หรือปรุงแค่เกลือนิดเดียวเท่านั้น อย่างวันนี้ทำซุปฟักทอง ริต้าชอบมาก

แล้วตอนเช้า นิหน่าก็ต้องจัดวิตามินให้แบงค์ และของตัวเอง อย่างแบงค์เยอะหน่อย เค้าจะมียาความดันด้วย ซึ่งต้องกินไปตลอด ควบคู่ไปกับ Odourless fish oil ที่ให้โอเมก้า 3 ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสมอง ช่วยเรื่องความจำ แล้วก็ไม่มีกลิ่นคาวปลา เหมาะสำหรับคนที่ทานปลาน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งคุณแบงค์ นอกจากความดันแล้ว เค้าเป็นคนที่แข็งแรงมาก ป่วยไม่เกินสองวัน ตรวจร่างกายก็ออกมาดีตลอด น่าอิจฉาจริงๆ ? แต่ยังไง นิหน่าก็ให้แบงค์ไปตรวจร่างกายประจำปีเสมอๆ

อยากแนะนำให้ทุกบ้าน ลงปฏิทินประจำปีไว้เลยนะคะเรื่องตรวจร่างกาย อย่าคิดว่าเราแข็งแรงดีไม่เป็นไร หรือเราดูร่างกายสมส่วนไม่อ้วนไม่ผอม ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะบางคนมีภาวะไขมันในเลือดสูง ทั้งๆที่ผอม หรือมีบางคน มีปัญหาเรื่องความดันสูง แบบแบงค์ แต่ไม่ได้มีอาการอะไรแสดงออกมา จนไปวัดความดันนั่นแหละค่ะถึงจะรู้ อันตรายมากเหมือนกันนะคะ

ส่วนนิหน่าเองทำงาน เลี้ยงลูก เวลาจะมาดูแลอาหารการกินตัวเองก็น้อยลง ก็ต้องบำรุงร่างกายเป็นพิเศษ เลือกทาน MultiVitamins ที่ช่วยเสริมให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่เหมาะสมในแต่ละวัน กินแล้วก็สบายใจว่าอย่างน้อยเราก็ได้ดูแลตัวเอง อิอิ ไม่ได้ผอมแล้วขาดสารอาหาร และอีกตัวที่ขาดไม่ได้คือ Buffer C เป็นวิตามิน C วิตามินซีแบบค่อยๆปลดปล่อย ออกฤทธ์ินาน 8 ชั่วโมง ทำให้มีวิตามินซีอยู่ในร่างกายได้นาน เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้ และก็ไม่ระคายกระเพาะด้วย แล้วช่วงนี้อากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา นิหน่าเองเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว เลยต้องทานตัว Liquid Echinacea เสริมด้วย ตัวนี้มีหลายคนถามว่ามันคืออะไร มันคือสมุนไพรที่ช่วยลดอาการหวัด กระตุ้นภูมิคุ้มกัน เด็กตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไปทานได้ค่ะ แต่แรกๆก็ทานยากหน่อย เพราะกลิ่นเค้าเหมือนยาจีน แต่พอลองผสมไปผสมมา น้ำมะนาว หรือแอปเปิ้ล หรือบางทีใช้สูตร น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา น้ำอุ่นสัก 30 ml เหยาะ Liquid Echinacea ลงไป ก็จะทำให้ทานง่ายขึ้นเยอะ ซึ่งทานแล้วก็ช่วยได้นะคะ อากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่นิหน่าก็ยังสู้ทนอยู่ได้ ไม่จามหัวทิ่มเหมือนเมื่อก่อน

ส่วนน้องแพท ของโปรดเค้าคือ ไข่เจียวกับข้าว 555 ดังนั้นนิหน่าไม่ค่อยห่วงเรื่องโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แต่จะห่วงเรื่องการขาดพวกไฟเบอร์จากผัก และวิตามิน C มากกว่า แปลกมากที่ตอนเด็กๆแพททานผักผลไม้ดีมาก แต่พอโต กลายเป็นไม่ทานผัก ยอมทานแต่ผลไม้ แต่ถ้านิหน่าเอาแอบๆซ่อนๆใส่ไว้ หรือถ้าเมนูผักชุบแป้งทอด แพทก็ทานได้ไม่มีปัญหา คือแค่ขอให้อาหารอย่างมาหน้าตาเป็นผักให้เห็นเท่านั้น แต่คิดว่านี่คงเป็นปัญหาส่วนใหญ่ของเด็กๆวัยนี้ของทุกบ้าน สำหรับแพทนิหน่าเลยให้ทาน Koala C วันละเม็ดทุกวัน ก็รู้สึกว่าหวัดไม่ถามหาเท่าไหร่ แล้วก็ถ้าช่วงอากาศเปลี่ยน ดูท่าทางไม่ค่อยดี มีน้ำมูกใสๆ ก็จะหยด Liquid Echinacea ใส่ลงไปให้ด้วย แต่ต้องผสมน้ำแดง หรือน้ำผึ้งหน่อยเพื่อกลบกลิ่นกับรส แต่แพทก็ทานได้ไม่มีปัญหานะคะ 🙂

ช่วงกลางวัน บ้านเราต่างแยกย้ายไปทำงาน แพทไปโรงเรียน ก็จะออกไปทานอาหารข้างนอกอยู่แล้ว แต่พอกลับมาบ้าน ก่อนอาหารเย็น เราก็จะออกไปวิ่งเล่นที่สนามกัน ให้เด็กๆเหนื่อย จะได้หิวๆ 5555 ได้ทานเยอะๆ การออกกำลังกายนี่ดีมากๆเลยนะคะสำหรับเด็กๆ เพราะช่วยให้เค้าเจริญอาหารขึ้น และก็ช่วยสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายเค้าด้วย และช่วงมื้อเย็น สิ่งสำคัญคือการได้อยู่ทานข้าวร่วมโต๊ะอาหารกันพร้อมหน้า จะเรียกว่าเป็นกฏของบ้านเลยก็ได้ ที่เราจะไม่มีการไปเดินตามป้อน หรือทานข้าวนอกโต๊ะอาหารกัน (ยกเว้นแบบบ้านมีงานเลี้ยง ก็อาจจะมีบ้าง) เพราะจริงๆนิหน่าเคยอ่านเจอว่า การทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน ถือเป็นช่วงเวลาวิเศษของครอบครัวที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก ให้ติดตัวอยู่กับเค้าไปจนโต ทำให้นิหน่า แบงค์ แพท ริต้า ยังไงก็ต้องนั่งทานข้าวมื้อเย็นด้วยกันเสมอๆ หากอยู่บ้านกันพร้อมหน้า 🙂

และบ้านเราจะนอนกันเร็วค่ะ และนอนพร้อมๆกัน ประมาณสองทุ่มสามทุ่มก็ขึ้นนอนกันละ เพราะว่าแพทต้องไปโรงเรียน ก่อนนอนก็จะเล่านิทานให้กันฟัง เป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันมาตั้งแต่แพทเด็กๆ จนตอนนี้ทำให้น้องริต้า ก็มานั่งปุ๊กลุ๊กฟังนิหน่ากับพี่ชายด้วย นิหน่า แบงค์อยากใช้เวลาช่วงนี้กับลูกๆให้คุ้ม เพราะอีกหน่อยเค้าโตไปเค้าก็อยากไปมีชีวิตของตัวเองแล้วเนอะ

นี่ละค่ะชีวิตในหนึ่งวันของบ้านนิหน่า เรียบง่าย สบายๆ แต่เราก็ดูแลกันและกัน 🙂

สุดท้ายนี้ ขอบคุณ Blackmores มากๆนะคะที่อยู่กับครอบครัวเรามาตลอด คราวหน้ามีอะไรดีๆจะมาแชร์เล่าสู่กันฟังอีก #BlackmoresLivemoreFamily #ครอบครัวแสนสตรอง

ไว้เจอกันใหม่นะคะ ^^
xxNina